กินคลีนแบบไหน ถึงจะปัง!
เดี๋ยวนี้เทรนด์สุขภาพมาแรงมาก หลายคนหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินกันมากขึ้น หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ การกินคลีน (Clean Eating) ซึ่งเป็นการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ปราศจากสารปรุงแต่ง สารเคมี ไขมันทรานส์ และน้ำตาลทราย
แต่การกินคลีนแบบไหนถึงจะปัง? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบกัน
กินคลีนคืออะไร?
การกินคลีนคือการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปราศจากสารปรุงแต่ง สารเคมี ไขมันทรานส์ และน้ำตาลทราย โดยเน้นการกินผัก ผลไม้ โปรตีนจากพืชและสัตว์ ไขมันดี และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
การกินคลีนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น
– ช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากอาหารคลีนมีแคลอรี่ต่ำ
– ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
– ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง
– ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
กินคลีนแบบไหนถึงจะปัง?
การกินคลีนแบบปัง คือการกินคลีนที่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยไม่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
หลักการกินคลีนแบบปัง
– กินผักเยอะๆ ผักเป็นแหล่งรวมวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพ แนะนำให้กินผักอย่างน้อย 500 กรัมต่อวัน
– กินผลไม้ ผลไม้เป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน แนะนำให้กินผลไม้อย่างน้อย 2-3 ชิ้นต่อวัน
– กินโปรตีน โปรตีนจำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ แนะนำให้กินโปรตีนประมาณ 1.2-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
– กินไขมันดี ไขมันดีจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แนะนำให้กินไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว อะโวคาโด ถั่วต่างๆ
– กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้พลังงานอย่างช้าๆ ช่วยลดการขึ้นลงของระดับน้ำตาลในเลือด แนะนำให้กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ถั่วต่างๆ
ตัวอย่างเมนูอาหารคลีน
อาหารเช้า
– ไข่ลวก ขนมปังโฮลวีต อะโวคาโด
– โยเกิร์ตธรรมชาติ ผลไม้สด
อาหารกลางวัน
– ข้าวกล้องผัดผัก อกไก่ย่าง
– สลัดทูน่า
อาหารเย็น
– ปลานึ่ง ผักลวก
– เต้าหู้ผัดผัก
ข้อควรระวังในการกินคลีน
– ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มกินคลีน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคไต โรคตับ โรคหัวใจและหลอดเลือด
– ควรวางแผนการกินอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน
– ไม่ควรอดอาหาร การอดอาหารอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้