ในยุคปัจจุบัน สมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 ของมนุษย์ หลายคนใช้เวลากับมือถือนานหลายชั่วโมงต่อวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาทานอาหาร นอนหลับ หรือเข้าห้องน้ำ พฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ “เหนียง” ไขมันสะสมใต้คางที่บดบังใบหน้าให้ดูอ้วนกลม ไร้เสน่ห์
เหนียง เกิดจากการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณคาง สาเหตุหลักมาจาก 2 ปัจจัย คือ
1.การเผาผลาญพลังงานน้อยกว่าที่ได้รับ เกิดจากการทานอาหารมาก ออกกำลังกายน้อย หรือมีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ
2.กล้ามเนื้อคออ่อนแอ กล้ามเนื้อคอมีหน้าที่ยึดใบหน้าให้เต่งตึง เมื่อกล้ามเนื้ออ่อนแอ ผิวหนังบริเวณคอจะหย่อนคล้อย เกิดเป็นเหนียง
การก้มมองมือถือนานๆ ส่งผลต่อการเกิดเหนียงได้อย่างไร?
– ท่าทาง การก้มมองมือถือเป็นเวลานาน ทำให้ศีรษะโน้มไปข้างหน้า กล้ามเนื้อคอต้องทำงานหนักเพื่อรับน้ำหนักศีรษะ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคอตึง เกร็ง และอ่อนแอลง
– การเผาผลาญ การก้มมองมือถือในท่าเดิมนานๆ ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่ม และไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงบริเวณใต้คาง
วิธีป้องกันและกำจัดเหนียง
1.ปรับท่าทาง ยืดคอและศีรษะให้ตรงระดับสายตา หลีกเลี่ยงการก้มมองมือถือนานๆ
2.บริหารกล้ามเนื้อคอ มีท่าง่ายๆ ที่สามารถทำได้ เช่น ยืดคอ ก้มคอ เงยคอ หมุนคอ ทำคางชูคอ
3.ควบคุมอาหาร ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และแป้งขัดสี
4.ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ เลือกคาร์ดิโอ ควบคู่กับเวทเทรนนิ่ง เพื่อเผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ
5.นวดหน้า กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรง ผิวหนังเต่งตึง
เทคโนโลยีช่วยกำจัดเหนียง
หากเหนียงมีขนาดใหญ่ กำจัดด้วยวิธีธรรมชาติได้ยาก อาจพิจารณาเทคโนโลยีเหล่านี้
– การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยคลายกล้ามเนื้อคอ ลดความตึง เกร็ง ทำให้ผิวหนังบริเวณคอเรียบเนียน
– การฉีดฟิลเลอร์ เติมเต็มร่องลึกใต้คาง ช่วยให้คางดูเรียวขึ้น
– การยกกระชับด้วยคลื่นความร้อน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง
– การดูดไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินใต้คางโดยตรง
เหนียง ไม่ได้เกิดขึ้นจากการอ้วนเพียงอย่างเดียว การก้มมองมือถือนานๆ ส่งผลต่อกล้ามเนื้อคอ ทำให้คออ่อนแอ ผิวหนังหย่อนคล้อย เกิดเป็นเหนียงได้ ปรับท่าทาง ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และบริหารกล้ามเนื้อคอ ช่วยป้องกันและกำจัดเหนียงได้