เปิดประสบการณ์ใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่สุดฮิต

สวัสดีนักเดินทางและสายคาเฟ่ทุกคน! ประเทศไทยของเรานั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่สุดชิคที่รอให้คุณไปสัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเลสุดตระการตา ภูเขาสูงตระหง่าน หรือคาเฟ่สุดคูลที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่ที่ไม่ควรพลาดในประเทศไทย พร้อมเคล็ดลับการเดินทางและเมนูแนะนำที่จะทำให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

จากสถิติล่าสุดในปี 2023 พบว่านักท่องเที่ยวกว่า 70% มักจะค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวควบคู่ไปกับคาเฟ่ดีๆ เพื่อแวะพักระหว่างการเดินทาง และมากกว่า 85% ของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการถ่ายรูปสวยๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่เพื่อแชร์ลงโซเชียลมีเดีย มาดูกันว่า 10 สถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่ที่เราแนะนำมีที่ไหนบ้าง!

1. เกาะล้าน พัทยา และ Coco Cafe

เกาะล้านเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วยระยะทางเพียง 147 กิโลเมตร ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทริปวันเดียว หาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสีฟ้าของเกาะล้านทำให้นักท่องเที่ยวกว่า 1 ล้านคนต่อปีเดินทางมาเยือนที่นี่

ไฮไลท์ของเกาะล้าน

  • หาดตาแหวน: หาดที่สวยที่สุดบนเกาะ เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและถ่ายรูป
  • กิจกรรมทางน้ำ: บานาน่าโบ๊ท เจ็ทสกี และดำน้ำตื้น
  • จุดชมวิวเกาะล้าน: สามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของเกาะได้ 360 องศา

หลังจากเที่ยวชมความสวยงามของเกาะล้านแล้ว อย่าลืมแวะไปที่ Coco Cafe คาเฟ่สุดชิคริมหาดที่ตกแต่งด้วยสไตล์ทรอปิคอลสุดชิล ที่นี่มีเมนูแนะนำอย่าง “Coco Paradise Smoothie Bowl” ที่ทำจากผลไม้สดและมะพร้าวแท้ๆ จากเกาะ และ “Island Sunset Coffee” กาแฟซิกเนเจอร์ที่มีสีสันสวยงามเหมือนพระอาทิตย์ตกที่เกาะล้าน

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรไปเกาะล้านในวันธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด และจองเรือเร็วไปเกาะล้านล่วงหน้าในช่วงไฮซีซั่น

2. ดอยอินทนนท์ และ The Giant Chiangmai

ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติสูง มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 500,000 คนต่อปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิสามารถลดลงถึง 0 องศาเซลเซียส

ไฮไลท์ของดอยอินทนนท์

  • เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน: เส้นทางเดินป่าระยะทาง 2.5 กิโลเมตรที่สวยงาม
  • พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ: สองเจดีย์สวยงามที่สร้างถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินี
  • น้ำตกวชิรธาร: น้ำตกสูงกว่า 80 เมตรที่สวยงามตระการตา

หลังจากสัมผัสอากาศหนาวและธรรมชาติบนดอยอินทนนท์แล้ว แนะนำให้แวะพักที่ The Giant Chiangmai คาเฟ่บนต้นไม้สุดแปลกตาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ คาเฟ่นี้โดดเด่นด้วยบ้านต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งจิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติได้ เมนูแนะนำคือ “Giant Hot Chocolate” และ “Tree House Coffee” ที่มาพร้อมกับศิลปะลาเต้อาร์ทสุดน่ารัก

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไปด้วยแม้จะเป็นหน้าร้อน และเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางเพราะบางครั้งอาจมีหมอกหนาทำให้มองไม่เห็นวิว

3. เกาะพีพี และ PP Princess Cafe

เกาะพีพีเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดกระบี่ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะหลังจากเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Beach”

ไฮไลท์ของเกาะพีพี

  • อ่าวมาหยา: อ่าวที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากภาพยนตร์ The Beach
  • อ่าวโล๊ะดาลัม: หาดทรายขาวละเอียดล้อมรอบด้วยหน้าผาหินปูนสูงชัน
  • กิจกรรมดำน้ำ: จุดดำน้ำที่มีปะการังและปลาสวยงามหลากหลายสายพันธุ์

PP Princess Cafe เป็นคาเฟ่ริมทะเลที่มีวิวสุดตระการตาของอ่าวต้นไทรบนเกาะพีพีดอน เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือ “Mermaid Smoothie Bowl” ที่ตกแต่งสวยงามเหมือนท้องทะเล และ “Blue Ocean Coffee” กาแฟสีฟ้าสดใสที่ได้แรงบันดาลใจจากน้ำทะเลใสของเกาะพีพี

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรพักค้างคืนบนเกาะพีพีอย่างน้อย 1 คืนเพื่อสัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่สงบและสวยงาม และหลีกเลี่ยงการไปในช่วงมรสุม (พฤษภาคม-ตุลาคม)

4. ภูทับเบิก และ Pino Latte Cafe

ภูทับเบิกเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ (1,768 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) และเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15-25 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 300,000 คนต่อปี

ไฮไลท์ของภูทับเบิก

  • แปลงกะหล่ำปลี: ไร่กะหล่ำปลีสีเขียวสดที่เรียงรายเป็นขั้นบันไดสวยงาม
  • จุดชมวิวภูทับเบิก: ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
  • วัดป่าภูทับเบิก: วัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้สักการะ

Pino Latte Cafe เป็นคาเฟ่กลางหุบเขาที่มีวิวภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ตกแต่งด้วยสไตล์รัสติกที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เมนูแนะนำคือ “Mountain Mist Hot Chocolate” ช็อคโกแลตร้อนที่มีไอหมอกเบาๆ ลอยอยู่เหนือแก้ว และ “Cabbage Cake” เค้กที่ทำจากกะหล่ำปลีสดๆ จากไร่ในท้องถิ่น

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรเดินทางด้วยรถที่มีกำลังเครื่องยนต์ดีเนื่องจากเส้นทางค่อนข้างชัน และจองที่พักล่วงหน้าในช่วงฤดูหนาวเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น

5. เชียงคาน และ Meena Cafe

เชียงคานเป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงในจังหวัดเลย ที่มีเสน่ห์ด้วยบ้านไม้เก่าแก่และวิถีชีวิตที่เรียบง่าย มีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 400,000 คนต่อปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบาย

ไฮไลท์ของเชียงคาน

  • ถนนคนเดินเชียงคาน: ถนนสายเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณและร้านค้าน่ารัก
  • ตักบาตรข้าวเหนียว: ประเพณีตักบาตรยามเช้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงคาน
  • ภูทอก: จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม

Meena Cafe เป็นคาเฟ่สไตล์วินเทจที่ตั้งอยู่ในบ้านไม้เก่าริมแม่น้ำโขง ตกแต่งด้วยของสะสมเก่าแก่และงานศิลปะท้องถิ่น เมนูแนะนำคือ “Mekong Sunset Tea” ชาสมุนไพรที่เปลี่ยนสีคล้ายพระอาทิตย์ตกดินเหนือแม่น้ำโขง และ “Chiang Khan Memory” เค้กที่ทำจากส่วนผสมท้องถิ่นอย่างกล้วยน้ำว้าและมะพร้าว

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรตื่นแต่เช้าเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและร่วมตักบาตรข้าวเหนียว และเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมเมืองเชียงคานอย่างช้าๆ

6. เกาะสมุย และ Vikasa Life Cafe

เกาะสมุยเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชายหาดสวยงามและรีสอร์ทหรูหรามากมาย ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี

ไฮไลท์ของเกาะสมุย

  • หาดเฉวง: หาดที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะ มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใส
  • หินตา-หินยาย: โขดหินรูปร่างแปลกตาที่มีตำนานน่าสนใจ
  • น้ำตกหน้าเมือง: น้ำตกสวยงามท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม

Vikasa Life Cafe เป็นคาเฟ่สุขภาพที่ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเล มีวิวพาโนรามาของอ่าวไทยที่สวยงาม เน้นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและวีแกน เมนูแนะนำคือ “Tropical Acai Bowl” ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์ฟู้ดและผลไม้เมืองร้อน และ “Coconut Cold Brew” กาแฟสกัดเย็นที่เสิร์ฟในลูกมะพร้าวสดๆ

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์เพื่อท่องเที่ยวรอบเกาะได้สะดวก และหลีกเลี่ยงการไปในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน

7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ The Chocolate Factory

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่มีพื้นที่กว่า 2,168 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี และสระบุรี มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 1 ล้านคนต่อปี

ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

  • น้ำตกเหวสุวัต: น้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามที่สุดในอุทยาน
  • จุดชมวิวผากระดาษ: จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าเขาได้กว้างไกล
  • เส้นทางศึกษาธรรมชาติกม.33: เส้นทางเดินป่าที่มีโอกาสพบสัตว์ป่าหลากหลายชนิด

The Chocolate Factory เป็นคาเฟ่และร้านช็อคโกแลตที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าอุทยานฯ เขาใหญ่ มีการตกแต่งที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เมนูแนะนำคือ “Khao Yai Mountain Chocolate” ช็อคโกแลตร้อนที่ทำจากโกโก้คุณภาพดี และ “Forest Cake” เค้กช็อคโกแลตที่ตกแต่งเหมือนผืนป่าเขาใหญ่

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรจองที่พักและขออนุญาตเข้าอุทยานฯ ล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว และเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับอากาศที่เย็นลงในตอนกลางคืน

8. ปาย และ Coffee In Love

ปายเป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีเสน่ห์ด้วยธรรมชาติที่สวยงามและบรรยากาศสบายๆ แบบชิลๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 500,000 คนต่อปี

ไฮไลท์ของปาย

  • สะพานประวัติศาสตร์ปาย: สะพานเหล็กที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
  • ปายแคนยอน: แกรนด์แคนยอนเมืองไทยที่เกิดจากการกัดเซาะของธรรมชาติ
  • น้ำพุร้อนท่าปาย: บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีอุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส

Coffee In Love เป็นคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปาย ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม โดดเด่นด้วยป้าย “Coffee In Love” สีแดงขนาดใหญ่ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คของปาย เมนูแนะนำคือ “Pai Mountain Coffee” กาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟจากดอยในพื้นที่ปาย และ “Love Strawberry Cake” เค้กสตรอเบอร์รี่ที่ใช้สตรอเบอร์รี่สดจากไร่ในท้องถิ่น

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรเตรียมยาแก้เมารถหากขับรถไปปายเอง เพราะเส้นทางมีโค้งมากกว่า 762 โค้ง และควรเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไปด้วยในช่วงฤดูหนาว

9. เกาะหลีเป๊ะ และ Bundhaya Cafe

เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน จังหวัดสตูล ที่ได้รับฉายาว่า “มัลดีฟส์เมืองไทย” เนื่องจากมีชายหาดสวยงามและน้ำทะเลใสราวกับคริสตัล มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 500,000 คนต่อปี

ไฮไลท์ของเกาะหลีเป๊ะ

  • หาดพัทยา: หาดหลักของเกาะที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใส
  • ร่องน้ำจาบัง: จุดดำน้ำที่มีปะการังอ่อนหลากสีสวยงาม
  • หาดซันไรส์: หาดทางฝั่งตะวันออกที่เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น

Bundhaya Cafe เป็นคาเฟ่ริมชายหาดที่มีวิวทะเลสวยงาม ตกแต่งด้วยสไตล์บีชบาร์ที่ให้บรรยากาศผ่อนคลาย เมนูแนะนำคือ “Lipe Blue Paradise” เครื่องดื่มสีฟ้าสดใสที่ได้แรงบันดาลใจจากสีของทะเลหลีเป๊ะ และ “Seafood Pancake” แพนเค้กที่เสิร์ฟพร้อมซีฟู้ดสดๆ จากทะเล

เคล็ดลับการเดินทาง: ควรเดินทางในช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่ทะเลสงบและน้ำใส และควรจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนในช่วงไฮซีซั่น

10. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และ Organic Mulberry Farm Cafe

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มีโบราณสถานสำคัญมากมาย แสดงถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยในอดีต มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 600,000 คนต่อปี

ไฮไลท์ของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

  • วัดมหาธาตุ: ศูนย์กลางของอุทยานฯ ที่มีเจดีย์ทรงดอกบัวตูมขนาดใหญ่
  • วัดศรีชุม: วัดที่มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ในวิหารโถง
  • วัดตระพังเงิน: วัดที่มีเจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่กลางสระน้ำสวยงาม

Organic Mulberry Farm Cafe เป็นคาเฟ่ในฟาร์มหม่อนออร์แกนิกที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานฯ สุโขทัย มีบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติ เมนูแนะนำคือ “Sukhothai Heritage Tea” ชาหม่อนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และ “Ancient City Cake” เค้กที่ตกแต่งด้วยลวดลายศิลปะสุโขทัย