ถ้าให้พูดถึงการเตรียมผิวให้ดูสุขภาพดีและแข็งแรงก่อนการแต่งหน้า ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่สาวๆควรต้องรู้ “การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า” นับเป็นขั้นตอนที่เหล่า “Makeup Artists” ชื่อดังต่างให้ความสำคัญ
และใช้เวลาในขั้นตอนนี้เป็นพิเศษ เพราะเมื่อมีผิวหน้าที่ดี เมคอัพก็จะออกมาเนียนสวยและติดทนนาน ถ้า อยาก “แต่งหน้า” ให้ได้สวยเนี้ยบเหมือนช่างแต่งหน้าฝีมือต้นๆแล้วล่ะก็ ลองมาเริ่มขั้นตอนการเตรียมผิวแบบมืออาชีพกันเลยค่ะ
“ล้างหน้าอย่างถูกวิธี”
ขั้นตอนแรกก่อนการแต่งหน้าคือการ “ล้างหน้า” ให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกายเพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน ช่วยชะล้างสิ่งสกปรก ฝุ่นและแบคทีเรียได้อย่างหมดจด ควรล้างหน้าด้วยความทะนุถนอม โดยการนวดด้วยปลายนิ้วมือ เพราะ “ผิวหน้า” มีความบอบบางกว่าผิวกาย และอย่าลืมล้างผลิตภัณฑ์ออกให้หมด แล้วจึงเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ การเลือกใช้ “ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า” ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองก็มีความสำคัญเช่นกัน สาวๆ ที่มี “ผิวมัน” ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเจลหรือโฟมเพื่อช่วยในการกำจัดน้ำมันส่วนเกิน
ถ้ามี “ผิวแห้ง” ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเนื้อครีม สำหรับสาวๆ ที่มี “ผิวแพ้ง่าย” ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ “Salicylic Acid”, “Benzoyl Peroxide” หรือ “Tea Tree Oil” เหมาะกับสภาพผิวที่อาจเกิดสิวได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีคุณสมบัติในการ “ขัดผิว” ซึ่งเราสามารถนำมาใช้สลับได้ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อให้ได้ผิวหน้าที่เนียนนุ่มไม่หยาบกร้าน
ใช้ “Toner” ที่ปราศจาก “แอลกอฮอล์”
สาวๆ หลายคนมักมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับ “โทนเนอร์” และอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่แน่ใจว่าควรจะใช้หรือไม่ อย่างไร โทนเนอร์มีหน้าที่ดูดซับสิ่งสกปรกที่หลงเหลือจากการล้างหน้า กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วย “ปรับสมดุล” ความเป็นกรดด่างของผิวหน้า และป้องกันการเกิดสิว โทนเนอร์ที่ดีไม่ควรมี “แอลกอฮอล์”
เป็นส่วนประกอบหลัก เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวการทำให้ผิวแห้ง โทนเนอร์ควรใช้คู่กับสำลีแบบแผ่นหรือแบบก้อน โดยเทให้สำลีชุ่มพอประมาณและลูบให้ทั่วใบหน้าเบาๆ สำหรับ สาวๆที่มี “ผิวผสม” ถึง “ผิวมัน” สามารถใช้โทนเนอร์วันละสองครั้ง เช้าและก่อนนอน ส่วนสาวๆ “ผิวแห้ง” ควรใช้แค่วันละครั้งในเวลากลางคืน
ผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วย “เซรั่ม” และ “ครีมบำรุงผิว”
เริ่มขั้นตอนด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยแตะเซรั่มลงบนแก้ม หน้าผากและคาง ลูบไล้ให้ซึมลงสู่ผิวหน้า ตามด้วยการทาครีมบำรุงผิวให้ทั่วใบหน้า โดยใช้ปลายนิ้วมือนวดเป็นวงกลมเบาๆ หลังจากทาครีมบำรุงผิวทุกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนต่อไป ควรรอประมาณ 5 นาทีเพื่อให้เนื้อครีมซึมเข้าสู้ผิวหน้า “Moisturizer” ถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ “Day Cream” และ “Night Cream” ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับกลางวันจะมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมักมีส่วนผสมของ “สารกันแดด” เพื่อปกป้องผิวสวยของเราจากรังสี “UV” ในขณะที่ครีมที่ใช้ก่อนนอนจะมีความหนาและให้ความชุ่มชื้นที่มากกว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ ควรคำนึงถึงในการเลือกครีมบำรุงผิวก็คือ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว สาวผิวมันควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันให้กับผิว และอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิว สาวผิวแห้งขาดน้ำควรใช้ครีมที่มอบความชุ่มชื้นเป็นพิเศษเพื่อให้ได้เมคอัพที่ฉ่ำวาวในแบบ “งานผิว” และเมื่อผิวหน้าได้รับการปรนนิบัติแล้ว อย่าลืมดูแลความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากสวยด้วย การทา “ลิปมัน” ทิ้งไว้ก่อนแต่งหน้า ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียนและทำให้สีของ “ลิปสติก” ติดทนนานมากยิ่งขึ้น
เลือกใช้ “Primer” ที่ตอบโจทย์
Primer เป็นตัวช่วยในการเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า ช่วยให้เครื่องสำอางเนียนเรียบและติดทนนาน ในท้องตลาดมีหลากหลายชนิดให้สาวๆ ได้เลือกใช้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล ผลิตภัณฑ์ที่มี “Silicone” เป็นส่วนประกอบ ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน รูขุมขนดูเล็กลง ริ้วรอยดูบางลง ทั้งยังช่วยให้ป้องกันไม่ให้น้ำมันส่วนเกินของผิวหน้าไปปะปนกับ “เครื่องสำอาง” ที่เราแต่ง หรือจะเป็น Primer ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งเหมาะกับสาวๆ ผิวแห้งที่ต้องการเมคอัพที่มีความเงาวาว
สีผิวสม่ำเสมอด้วย “Makeup Base”
ขั้นตอนการเตรียมผิวขั้นตอนสุดท้ายก่อนการลง “รองพื้น” และ “คอนซีลเลอร์” คือการปรับสีผิวให้เป็นกลาง ช่วยอำพราง ปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ ด้วย Makeup Base สาวๆ สามารถทาผลิตภัณฑ์ทั่วใบหน้าด้วยปลายนิ้วมือ หรือจะใช้แปรงที่ใช้กับ “Concealer” ทาเฉพาะจุดที่ต้องการจะแก้ไขเท่านั้นก็ได้ ลองมาทำความรู้จักกับ Makeup Base สีต่างๆ กันดูว่าแต่ละสีมีไว้สำหรับการแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
– “เบสสีเขียว” เหมาะสำหรับสาวผิวขาวถึงขาวเหลือง ช่วยอำพรางและปกปิด “รอยแดง” จากสิว “ผื่นแพ้” หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอที่เป็นสีแดง
-“เบสสีม่วง” ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง แลดูสว่างขึ้น และลดปัญหา “ผิวหมองคล้ำ” จากการพักผ่อนน้อย ใช้ได้กับสาวๆ ทุกสีผิว
-“เบสสีชมพู” เหมาะสำหรับสาวผิวขาว ช่วยปรับให้ผิวขาวอมชมพู ดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
-“เบสสีเหลือง” ใช้ในผู้หญิงผิวสองสี เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ
-“เบสสีส้ม” ลดรอยหมองคล้ำโทนสีม่วงหรือฟ้า มักใช้ในการแก้ปัญหา “รอยดำใต้ตา” ให้ดูสว่างกระจ่างขึ้น ใช้ได้ดีในสาวผิวขาวเหลืองถึงผิวสองสี
การเตรียมผิวหน้าก่อนแต่งหน้าอย่างถูกวิธี หากปฏิบัติจนเป็นนิสัย นอกจากจะช่วยให้เมคอัพติดทนนานแล้ว ยังเป็นการสร้างผิวสวยสุขภาพดีให้อยู่คู่กับสาวๆ ไปนานๆ อีกด้วย ต่อให้ต้องโชว์ “หน้าสด” ก็มั่นใจได้เสมอ