ถ้าพูดถึงเรื่องของกลิ่นปากแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ตลก และเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนต้องให้ความสนใจและรักษาความสะอาดกับช่องปากกันอยู่เสมอ เพื่อความมั่นใจในการพูดคุยนั่นเองใช่ไหมละค่ะ
เพราะฉะนั้นวันนี้เรามากำจัดกลิ่นปากกันเถอะ ซึ่งวันนี้เราเลยขอหยิบวิธีง่ายๆ ทั้งหมด 8 วิธี เพื่อสามารถช่วยลดกลิ่นปาก เปลี่ยนลมหายใจอี๋ๆ ให้กลับมาหอมสดชื่น ด้วยวิธีง่ายๆ ที่เพื่อนๆ สามารถทำตามกันได้ แค่ปรับและเปลี่ยนอะไรนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง ไปดูกันเถอะว่ามีวิธีอะไรกันบ้างดีกว่าจ้า
1. ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง “แปรงฟัน”
กฎพื้นฐานที่หลายๆ คนรู้ดี ถ้าไม่อยากมีกลิ่นปาก ก็แปรงฟันซิค่ะ! วิธีแปรงฟันจริงๆ ก็ไม่ได้ยาก เพียงแต่อาจจะขัดใจบรรดาสาวกคนขี้เกียจสักหน่อย ให้แปรงวันละ 2 ครั้ง และหลังมื้ออาหาร ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะแปรงฟันกันทุกเช้าและเย็นกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ? แต่จะให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เราแนะนำว่าให้แปรงหลังมื้ออาหารแต่ละมื้อด้วย วิธีนี้ก็จะช่วยบรรเทาปัญหากลิ่นปากได้และไม่ใช่แค่แปรงฟันอย่างเดียว แต่ “ลิ้น” ก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าเราไม่แปรงลิ้นด้วย แล้วปล่อยให้น้องเค้าสกปรก โอกาสที่จะมีกลิ่นปากได้ก็มีเหมือนกันค่ะ ฉะนั้นควรทำความสะอาดลิ้น ตั้งแต่โคนลิ้นเพื่อขจัดคราบอาหาร ลดแบคทีเรียบนลิ้น เท่านี้ปากของเพื่อนๆ ก็จะหอมสดชื่นแล้วค่ะ
2. ไม่อยากปากเหม็น ต้อง “เปลี่ยนแปรงสีฟัน”
ไม่ต้องงกกับเรื่องแค่นี้ ถ้ายังไม่เปลี่ยน ระวังกลิ่นจะเข้ามาทักทายนะ ถ้าแปรงมันเริ่มเสือมสภาพแล้ว เปลี่ยนเถอะค่ะ จริงๆ เราแนะนำว่าให้เพื่อนๆ เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 2 – 3 เดือน เพราะว่าแปรงสีฟันถือว่าเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี! ถ้าไม่เชื่อ เพื่อนจะเล่าสั้นๆ ให้ฟัง เวลาเรากำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปาก เราใช้แปรงสีฟันใช่มั้ย ฉะนั้นพวกแบคทีเรียต่างๆ ที่หลุดออกมาจากปากเรา ก็เกาะอยู่ที่แปรงนั่นแหละ เมื่อเราหยิบมาแปรงฟันอีกครั้งเชื้อเหล่านั้นก็จะกลับเข้าไปอยู่ในปากเพิ่มมากขึ้น โอ้โห!! วนเวียนเวียนวนไปมาแบบนี้ สยองอะ ฉะนั้นนอกจากจะต้องทำความสะอาดแปรงหลังแปรงฟันเสร็จให้ดีๆ แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน ก็อย่าลังเลเด็ดขาดค่ะ
3. ไม่อยากปากเหม็น เค้าว่าให้ “ดื่มน้ำเยอะๆ”
การดื่มน้ำ จะช่วยให้กลิ่นปากของเราลดลงได้จริงหรือ ว่ากันว่าน้ำลายสามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากออกไปได้ แต่ถ้าจำนวนน้ำลายของเรามีไม่เพียงพอ ก็อาจจะก่อให้เกิดอาการปากแห้งและมีกลิ่นปากตามมาได้ ดังนั้นจึงมีคำแนะนำว่าควรดื่มน้ำเยอะๆ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งการดื่มน้ำให้มากๆ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายสร้างน้ำลายได้มากขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นการช่วยชะล้างเศษอาหารในปากออกไปได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ง่าย แถมช่วยลดกลิ่นปากได้ด้วยนะจ๊ะ
4. ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง “บ้วนปาก”
การบ้วนปาก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่จะช่วยลดกลิ่นปากของเพื่อนๆ ได้เช่นเดียวกัน ปกติ ถ้าพูดถึงการบ้วนปาก สิ่งแรกที่เราจะนึกถึงคือน้ำยาบ้วนปากทั่วๆ ไป แต่รู้มั้ยว่า น้ำเกลือ ก็สามารถขจัดกลิ่นปากได้เหมือนกันนะ เพราะน้ำเกลือจะเข้าไปช่วยชะล้างเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปากและคอออกไปได้ วิธีง่ายๆ เลยค่ะ หลังแปรงฟันเสร็จ ให้คุณผสมน้ำครึ่งแก้วกับเกลือ (อย่าใส่เกลือมากเกินไปนะ เพราะเดี๋ยวเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ค่ะ) ผสมเสร็จแล้ว ให้อมไว้ประมาณ 3 – 5 นาที จากนั้นจึงบ้วนด้วยน้ำเปล่าตามอีกครั้ง เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ลองทำตามกันดูได้
5. ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง “มีตัวช่วย”
ตัวช่วยสำหรับคนมีกลิ่นปาก ต้องไอเทมเหล่านี้เลย หมากฝรั่งหรือลูกอม (ไม่มีน้ำตาล) และสเปรย์ดับกลิ่นปาก เป็นตัวช่วยแบบเร่งด่วนจริงๆ หากต้องไปคุยกับใครใกล้ๆ หรือเพิ่งทานอะไรเสร็จ แล้วต้องรีบไปคุยงานต่อ ไอเทมเหล่านี้ก็สามารถช่วยลดปัญหากลิ่นปากของคุณได้ แต่วิธีนี้ก็ช่วยดับกลิ่นปากได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น สรุปก็คือ มีไว้ใช้ในยามจำเป็นหรือต้องการปากหอมๆ แบบเร่งด่วนเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นปากได้ในระยะยาว แปรงฟันให้สะอาด เป็นสิ่งที่สมควรที่สุดแล้วค่ะ
6. ไม่อยากปากเหม็น ต้อง “เอาใจใส่อาหารการกิน”
อย่างที่เรารู้ๆ กันดีแหละเนอะว่า อาหารบางชนิด กินเข้าไปแล้ว อาจจะทำให้เรามีกลิ่นปากได้ อย่างเช่น กระเทียม หัวหอม กาแฟ แอลกอฮอล์ และอีกหลายๆ อย่าง ฉะนั้นถ้าเลี่ยงได้ ก็ควรเลี่ยงนะคะ หันมาทานอะไรที่ช่วยลดการเกิดกลิ่นปากกันดีกว่าค่ะ อย่างผักผลไม้บางชนิด อย่างแครอต ขึ้นฉ่าย หรือแอปเปิลสด ๆ ไฟเบอร์จากผักผลไม้เหล่านี้จะช่วยให้กลิ่นปากหายไปได้หรือพวกสมุนไพรต่างๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน เพียงแค่เราเลือกกินสักหน่อย เท่านี้ก็ไม่มีเรื่องกลิ่นปากมากวนใจแล้วค่ะ แล้วอย่าลืมนะ ทานเสร็จแล้ว แปรงฟันด้วย ปากจะได้สะอาดๆ นะค่ะทุกคน